วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

[OS] Q - BANGCHAN - PG-13










Title - Q
Author - MomiMOOK
Paring - BANGCHAN
Rate - PG-13
Talk - เรื่องนี้เป็น OS ดราม่าบังชาน ใสใสนะคะ เหมือนจะต่อกับเรื่องโล่แจในตอนที่แล้ว แต่ไม่ต่อ คิคิ เป็นฟิคไร้สมองจริงๆ ได้แรงบันดาลใจจากเพลงQในคอน แค่นั้นแหละ กรี๊ดดด ทำไมพรอบต้องเป็นเตียงคะ บอกน้องมาซิ!! ไม่รู้จะตั้งชื่อว่าอะไร ชื่อ Q ซะเลย สั้นๆ กระชับ ได้ใจความ เข้าใจตรงกันนะ กรั่กๆๆๆ [ฟิคใสใสไร้NC เรื่องที่แล้วเป็นสิ่งหลอกลวง มันไม่ใช่ตัวตนของเลา]


























               เอาไงดี


               จะเคาะดีมั้ย


               หรือไม่เคาะดี


               โอ้ยยย ยย เอาไงดี


               ...
               คิมฮิมชานยืนจ้องประตูสตูดิโอมาได้สักพักแล้ว บังยงกุกขังตัวเองให้อยู่ในนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อทำเพลงสำหรับคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ ก่อนหน้านั้นก็ซ้อมเต้นอย่างหนักกับจุนฮง มักเน่ตัวโตที่วันๆเอาแต่เรียกหาแต่ยองแจ ฮิมชานคิดที่จะเคาะประตูหวังจะเรียกคนข้างในออกมากินข้าว เป็นห่วงว่าถ้าทำงานหักโหมมากเกินไป คนหน้าโหดที่เขารักอาจจะล้มเจ็บขึ้นมาก็ได้



เบบี้: เมื่อไรเหรอที่รู้สึกไม่ชอบยงกุกเลย หรือรู้สึกอยากจะซัดหมอนี่ซักป๊าบ
ฮิมชาน: ตอนเค้าไม่ยอมกินข้าวครับ 



               มือขวาที่ยกขึ้นมากำค้างไว้บนอากาศเตรียมจะเคาะประตูแต่ก็ถูกหยุดไว้ บางทียงกุกอาจจะต้องการสมาธิ ไม่อยากให้เขาไปรบกวนก็เป็นได้ ถ้าเกิดเรียกตอนนี้แล้วคนหน้าโหดนั่นรำคาญเขาขึ้นมา จะทำยังไง



               "มีอะไรรึเปล่า"



               อยู่ดีๆยงกุกก็เปิดประตูออกมา ทำเอาใจตกใจแทบแย่ ฮิมชานถอยหนีออกมาจากประตูแล้วส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ท่าทางเครียดของคนรักทำให้ฮิมชานรู้สึกไม่ดี อยากจะเอ่ยถามว่าหิวมั้ยแต่ก็ไม่กล้า



               "แล้วมายืนทำอะไรตรงนี้"


               "ก็... เดินผ่านมาพอดี"


               "อืม"


               ยงกุกรับคำลวกๆแล้วเดินตรงเข้าไปในครัว หยิบน้ำเปล่าขวดใหญ่กับแก้วลายทิกเกอร์ก่อนจะเดินกลับเข้าสตูดิโอ




               "ทำอะไรอยู่น่ะ"



               ฮิมชานลอบมองเข้าไปข้างในด้วยความอยากรู้อยากเห็น เศษกระดาษที่ถูกขีดเขียนวางเกลื่อนบนโต๊ะญี่ปุ่น ซองขนมที่ถูกเปิดไว้สองสามถุงนั่นคงทำให้ร่างสูงหายหิวไปได้สักระยะ ในห้องนั้นรกพอๆกับห้องเก็บของของบริษัท แต่ทำไมยงกุกถึงขลุกตัวอยู่ได้ทั้งวันนะ



               "มิกซ์เพลงใหม่"



               "งั้นหรอ"



               ฮิมชานพูดแล้วทำปากยู่ท่าทางแสนงอน ยงกุกกมองออกทันทีว่าทำไมคนน่ารักคนนี้ถึงได้มายืนอยู่หน้าสตูดิโอได้



               "อยากเข้าไปมั้ย"



               ฮิมชานเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างทันที ได้เข้าในนี้ก็เหมือนเข้าไปในโลกของบังยงกุก โลกที่จะเปิดให้เข้าแค่ฮิมชานคนเดียว



               ยงกุกดันเอวฮิมชานเบาๆให้เดินเข้าไปในห้องรกๆนี้ก่อน แล้วเขาค่อยเดินมาเข้ามา ก่อนจะปิดประตูห้องเก็บเสียงนี้ลง ฮิมชานนั่งลงบนโซฟาที่มีที่ว่างพอแล้วสูดก่อนประตัวของยงกุกเข้าไปเต็มปอด ร่างสูงมองคนผิวขาวก่อนจะนั่งลงกับพื้นบ้าง เขาหยิบหูฟังขึ้นมาครอบหูแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ปล่อยให้ร่างบางมองอย่างพินิจพิจารณาตัวเองอย่างละเอียด



               "หิวมั้ย นายไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ"



               เสียงแผ่วเบาถูกกลั่นออกมาจากปากฮิมชานอย่างกล้าๆกลัวๆ ยงกุกปิดเพลงแล้วหันมามองร่างบางที่นั่งก้มหน้า ไม่กล้าสบตา ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนกลับไปแล้วดึงคนรักให้ลงมานั่งข้างกัน


               "เป็นห่วงรึไง?"



               "ก็เออน่ะสิ ใครใช้ให้นายทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ล่ะ"



               "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ฉันแข็งแรงจะตายไป"


               "ชิ ถ้าป่วยจะไม่สนใจเลย คอยดู"


               ยงกุกเอื้อมมือมายีผมฮิมชานเบาๆก่อนจะหอมแก้มอย่างเอ็นดูไปสองสามทีจนร่างบางในอ้อมกอดเขินจนหูแดง ก็เป็นซะแบบนี้ ใครจะไปงอนลงกันเล่า บังยงกุก


               "นายเพลงนี้จะเอาเพลงนี้ขึ้นแสดงหรอ?"


               "อืม ดูโอสเตจน่ะ"


               ฮิมชานจับเนื้อเพลงที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วฟังยงกุกกับอธิบาย เพลงนี้คือเพลง นี่ เขาจำได้อย่างแม่นยำเพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ร่างสูงแต่งตอนเขาแขนเจ็บ แถมบางทียังเอามาร้องให้ฟังตอนก่อนนอนด้วย ฮิมชานไม่อยากคิดไปเองว่ายงกุกแต่งเพลงนี้ให้หรอกนะ แต่ทั้งเนื้อหาและช่วงเวลา ...ทุกๆอย่างมันหมายถึงเขาจริงๆ




               "ดูโอสเตจงั้นหรอ แล้วนายจะร้องกับใครล่ะ?"





               ก๊อกๆๆๆ

               "ยงกุกฮยอง ผมมาแล้วครับ"




               ยังถามไม่ทันจบประโยค เสียงสดใสของแดฮยอนก็ดังขึ้นหน้าประตู นี่สินะ ...คู่ดูโอของยงกุก ไม่ใช่เขาสินะ ฮิมชานไม่ใช่เสียงหลักของวง เขาร้องเพลงไม่ค่อยเก่ง แม้แต่เพลงที่ยงกุกแต่ง เพลงนี้ที่เขารัก...ฮิมชานยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้ร้องมันเลย


               "เข้ามาเลย แดฮยอน"


               ประตูค่อยๆเปิดออกอย่างระมัดระวังก่อนที่แดฮยอนจะเดินเข้ามาในห้อง เสียงหลักหน้าแมวมองฮิมชานสลับกับยงกุกแล้วจึงพูดออกมา



               "ฮิมชานฮยองอยู่ที่นี่หรอครับ ผมนึกว่า..."



               "แดฮยอน"



               ยงกุกปรามเสียงต่ำจนฮิมชานหันมามองอาการแปลกๆนั่น ดูเหมือนมีความลับอะไรบางอย่างที่เขาไม่ควรรู้ระหว่างยงกุกกับแดฮยอน ร่างโปร่งจึงรีบนั่งลงโดยเร็วเพราะกลัวว่าพี่ใหญ่จะอารมณ์ขึ้นหากเขาทำอะไรให้ไม่พอใจ



               "ถ้างั้น ฉันไปแล้วนะ"


               ร่างบางพูดแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้คู่ดูโอซ้อมอยู่ในสตูดิโอแค่สองคนดีกว่า เขาเป็นคนนอก...ไม่ควรรับรู้อะไรอยู่แล้ว



               ฮิมชานเดินเข้าไปในห้องซ้อมก็เจอจงออบกับจุนฮงกำลังซ้อมเต้นกันอย่างหนัก ก่อนจะถอนหายใจแล้วล้มตัวนั่งกับพื้นปาเก้สีน้ำตาลทอง ถึงช่วงนี้คู่ของเขาจะไม่หวานเหมือนเมื่อก่อน แต่ความรักที่มีให้กันก็ยังมีอยู่เพียงแค่สัมผัสถึงมันได้น้อยลงเท่านั้น ประกอบกับช่วงนี้ยงกุกกับแดฮยอนสนิทกันมากขึ้นยิ่งทำฮิมชานรู้สึกไม่ดี




               "ฮยอง เป็นอะไรรึเปล่าครับ"


               "ฮื่อ ไม่เป็นไรหรอก"

               เขาถอนหายใจอย่างแรงอีกครั้งแล้วตอบคำถามของจงออบ

               "แต่ฮยองสีหน้าไม่ดีเลยนะครับ"



               "ไม่มีอะไร ก็แค่เบื่อ"


               "ทะเลาะกับยงกุกฮยองมาหรอครับ"


               "เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ"


               ฮิมชานล้มตัวนอนลง เอามือขวามาก่ายหน้าผาก พลางครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมา แต่นั่นมันยิ่งทำให้เขาน้อยใจมากขึ้น

















               เมื่อกลับมาที่หอ ยงกุกกับแดฮยอนก็ยังคงพูดคุยกันเรื่องงานในระหว่างกินข้าว ยงกุกดูจะจริงจังและใส่ใจกับเพลงนี้มากเป็นพิเศษ นี่ถ้าฮิมชานไม่ได้เป็นคนทำอาหารเย็นของวันนี้ ก็คงจะไม่ได้เห็นยงกุกอยู่ร่วมโต๊ะอาหารแน่



               "แดฮยอน"




               "ครับฮยอง"



               "นายว่ามันจะโอเคมั้ย ถ้าคีย์มันถูกปรับขึ้นขนาดนั้น"



               "โอเคสิครับ ผมลองร้องแล้วก็น่าจะโอเคนะครับ"



               "ฉันเป็นห่วงน่ะ กลัวว่าจะขึ้นไม่ถึง"



               "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เชื่อใจสิ เขาต้องทำได้อยู่แล้ว ก็ฮยองน่ะเก่งจะตายไป"




               ฮิมชานมองคนทั้งคู่จากอีกฝั่งนึงของโต๊ะ ทั้งๆที่หึงมากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ การที่ต้องมองแฟนตัวเองยิ้มให้กับอีกคน มันอึดอัดยิ่งกว่าขาดอากาศหายใจซะอีก




               ฮิมชานวางช้อนแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ทุกคนหันมามองร่างบางเป็นตาเดียว มีแต่จงออบเท่านั้นที่เดินตามพี่ชายไปด้วยความเป็นห่วง



               "ฮยอง ให้ผมเข้าไปได้มั้ยครับ"

               "ก็เข้ามาสิ"


               จงออบเปิดประตูเข้ามาแล้วยืนมองพี่ชายที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่บนเตียง เขาตบบ่าฮิมชานเบาๆแล้วนั่งลงข้างๆ จงออบสนิทกับฮิมชานมาก ทุกครั้งไม่ว่าฮิมชานคิดอะไร ทำอะไร ร่างบางจะบอกน้องคนนี้เสมอ แต่ครั้งนี้ฮิมชานเอาแต่เงียบ เลยทำให้ดูน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ แถมพี่ใหญ่ตัวต้นเหตุก็ยังมาทำเมินกันแบบนี้อีก



               "ฮือ"


               ฮิมชานร้องไห้ออกมาเบาๆ มือทั้งสองปิดหน้าไว้ ตัวสั่นเทา ทำไมถึงอ่อนแอขนาดนี้นะคิมฮิมชาน  จงออบดึงพี่ชายให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนพลางตบหลังปลอบโยนเป็นระยะ


               "ไม่เป็นไรนะครับ"


               ฮิมชานเอาแต่ร้องไห้ น้ำตาที่เสียไปในครั้งนี้อาจจะเป็นตัวแทนทุกสิ่งทุกอย่าง ความเศร้าทั้งมวลของฮิมชานที่เก็บกักเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มและท่าทางร่าเริง จงออบหวังแค่เพียงให้พี่ชายร้องไห้ออกมาให้หมดแล้วกลับไปเป็นฮิมชานฮยองที่เข้มแข็งของเขาเหมือนเดิม


               "ทำอะไรกันน่ะ"


               เสียงของยงกุกดังขึ้นทำให้ทั้งคู่ตกใจ ฮิมชานสะดุ้งออกจากอ้อมกอดของจงออบแล้วปาดน้ำตาออก ยงกุกทำคิ้วขมวดมองมาที่ทั้งคู่อย่างคาดโทษ ก่อนจะกระชากฮิมชานให้เดินตามออกไปอย่างแรง


               "เจ็บนะ"


               ยงกุกพาฮิมชานเขามาในห้องสตูดิโอ อันที่ทำงานของเขาภายในหอพัก ด้านในคับแคบแต่มีเตียง โต๊ะและคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบครัน ร่างสูงล็อคประตูแล้วโยนฮิมชานลงบนเตียงอย่างแรงโดยไม่ได้สนใจว่าร่างบางกำลังร้องไห้


               "คิดจะทำไรน่ะ ไม่เห็นหัวฉันแล้วใช่มั้ย คิมฮิมชาน"


               "ไม่ได้ทำอะไรนะ"

               "แล้วที่เห็นกอดกับจงออบล่ะ นี่ถ้าฉันเข้าไปไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

               "บังยงกุก!!"


               ฮิมชานตบยงกุกเต็มแรงด้วยมือขวา จงออบกับเขาเป็นแค่พี่น้อง และเขาก็ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้กับจงออบ ไม่มีทาง



               "คิมฮิมชาน!!"


               ยงกุกก็โกรธไม่แพ้กัน เขากดฮิมชานลงบนเตียงแล้วประกบริมฝีปาก บดขยี้ริมฝีปากสีชมพูของอีกคนอย่างแรง ฮิมชานร้องไห้หนักเข้าไปอีก สองมือทุบอกแกร่งพร้อมกับดันคนข้างหน้าออกไปด้วยความตกใจ ยงกุกเลยพันธนาการแขนคู่นั้นด้วยมือแกร่งของเขา ลมหายใจร่างบางเริ่มขาดห้วง ยงกุกจึงถอนจูบก่อนจะจ้องมองคนรักด้วยสายตาแข็งกร้าว


               "ปล่อยนะ"


               "ทำไม อยากให้เป็นจงออบรึไง"


               "เหอะ ฉันก็ไม่ใช่แดฮยอนนี่ จะมาจูบฉันทำไม"


               "แดฮยอน??




               ยงกุกตกใจกับคำพูดของร่างบาง เกี่ยวอะไรกับแดฮยอน ความโกรธที่มีหายไปหมด ยังไม่ทันได้ถาม ฮิมชานก็ลุกขึ้นจะหนีไป ร่างสูงจึงรั้งเอวเบาๆก่อนจะกดจูบลงอีกครั้งหนึ่ง ลิ้นร้อนเกี่ยวกันไปมา ฮิมชานพยายามจะผละออกหลายครั้งแต่ก็โดนดึงกลับมารับจูบร้อนแรงไม่จบสิ้น


               "พอ พอสักที"

               "ฮิมชาน"


               "เราเลิกกัน บังยงกุก ในเมื่อนายไม่รักฉันแล้ว เราก็จบกันเถอะ"

               "นายพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง"

               "พอเถอะ เราเลิกกันเถอะ นายไม่เคยรักฉัน ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว"



               "ใครบอกว่าไม่รักแล้วล่ะ"

               "การกระทำมันฟ้อง"

               "นายเข้าใจผิด"

               "ยังไงล่ะ?"


               "ทำไมนายถึงไม่รู้จักแยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัวแบบนี้นะ"


               "ก็ได้ ฉันผิด แต่การที่นายเอาเพลงที่แต่งให้ฉันไปให้คนอื่นร้องล่ะ ฉันผิดด้วยงั้นสิ"


               "ฮิมชาน...ใจเย็นก่อน"



               "ไม่"


               "ขอโทษ"


               "เราเลิกกัน"




               ร่างบางปฎิเสธคำขอโทษ น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาอาบใบหน้าสวย หัวใจข้างในแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่ได้อยากเลิกกับยงกุก แต่เขาไม่อยากเสียใจอีกแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องของแดฮยอนในครั้งนี้ แต่ยงกุกไม่เคยบอกรักเขาสักครั้ง แม้กระทั่งตอนตกลงคบกัน พี่ๆในบริษัทไม่ใครรู้เรื่องเพราะยงกุกไม่ยอมให้บอก ส่วนน้องๆในวงที่สังเกตความผิดปกติของทั้งคู่อยู่ก็พอจะเดาความสัมพันธ์ได้ ทั้งช่วงนี้แดฮยอนกับยงกุกยังสนิทกันแปลกๆ ต่างจากปกติที่เวลาอยู่ในหอแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลย




               ร่างสูงร้องไห้และสวมกอดร่างบางเบาๆแม้จะโดนขัดขืน ไม่คิดว่าการที่เขาทำเรื่องเซอร์ไพรส์คนรักแบบนี้ ยิ่งทำให้ร่างบางเข้าใจผิดไปใหญ่




               "ขอร้อง... อย่าเลิกกับฉันเลยนะ"



               "..."



               "ฉันต้องตายแน่ ถ้าไม่มีนายอยู่ข้างๆ ฮิมชาน"



               "...อย่าโกหก"



               "ไม่ได้โกหก ฉันรักนายนะฮิมชาน"



               ร่างบางหัวใจพองโตขึ้นจนร้องไห้อย่างหนัก เขาได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย บังยงกุกบอกรักเขาใช่มั้ย?




               "ความจริงฉันตั้งใจจะให้นายร้องนะ แต่มันต้องปรับนิดหน่อยให้เข้ากับเสียงของนาย ก็เลยต้องพึ่งแดฮยอน"



               "..."



               "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันเป็นแบบนี้ แต่นายคือคนได้ร้องเพลงนี้ ไม่ใช่แดฮยอน เจ้านั่นแค่มาร้องไกด์ให้เฉยๆ"




               ร่างสูงคลายอ้อมกอดแล้วยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ร่างบางก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้ คิดว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจนถึงวันซ้อม แต่ถ้าไม่ยอมบอก...เขาคงต้องเสียฮิมชานไปเพราะความเข้าใจผิดเป็นแน่



               "พูดจริงหรอ"



               "จริงสิ มันเป็นเพลงของเรานะ ฉันไม่ยอมให้ใครมาร้องหรอก...นอกจากนาย"



               "ยงกุก..."



               ฮิมชานยิ้มอย่างปิติแล้วโผเข้ากอดยงกุก ร่างสูงกอดตอบพร้อมพูดคำขอโทษมากมาย



               "ขอโทษนะที่ทำให้เข้าใจผิด แต่ช่วยร้องเพลงนี้ในดูโอสเตจของเราได้มั้ยครับ คิมฮิมชาน"



               ฮิมชานพยักหน้าเป็นคำตอบ คำว่า'ดูโอสเตจของเรา'ทำให้ฮิมชานดีใจจนกลั้นน้ำตามากมายไว้ไม่อยู่ ยงกุกยิ้มให้ร่างบางน้อยๆก่อนจะสูดเอาความหอมจากคนในอ้อมกอดหลายครั้งจนร่างบางเอียงหน้าหนีด้วยความเขินอาย




               "ฉันรักนายนะ คิมฮิมชาน"



               "อื้ม ฉันก็รักนาย บังยงกุก"












อยากจะให้เลิกกันจริงๆ จะได้ดราม่ายาวๆ เค้าชอบให้บังชานดราม่าแหละ เฮียอยากแบ๊วดีนัก ต้องลงโทษ ชิชิ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น